เมทัลชีท Colorbond® Steel สีสันสวยสดใส ไม่เกิดคราบดำ เพราะมี Clean Technology

เพราะความสวยงามของผนัง และหลังคา ที่สีสวยสดใสแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีก็ยังคงสวยงามอยู่ ไม่หม่นหมองจากคราบฝุ่น คราบละอองเขม่า ถือเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของที่อยู่อาศัย สำหรับการทำธุรกิจนั้นยิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะคือความน่าเชื่อถือ ความใส่ใจ และแสดงศักยภาพให้กับลูกค้าเห็นว่าธุรกิจนั้นๆ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถ้าปล่อยให้อาคารดูหม่นหม่อง ทรุดโทรม คงยากที่จะทำให้ลูกค้าไว้ใจได้

ฝุ่น และคราบน้ำคือ คือตัวการที่ทำให้หลังคา ผนัง หรือกระจก ดูหม่นหมองไม่สดใส ไปจนเมื่อมีฝนตกลงมาชะล้างฝุ่นเหล่านี้ ก็จะหลุดออกไปพร้อมกับน้ำฝน แล้วทำไมเรายังเห็น หลังคา ผนัง หรือกระจก ของบ้าน อาคาร โรงงาน ยังดูไม่สดใสมีคราบฝุ่นหรือคราบสกปรกติดอยู่ นั้นก็เป็นเพราะพื้นผิวของแต่ละวัสดุ มีสารเคลือบ หรือมีสีที่เคลือบที่มีคุณภาพไม่ดี และเทคโนโลยีไม่เหมาะสม

เมทัลชีททั่วไปที่ดูไม่สดใส หรือมีสีหมองหม่น เมื่อใช้ไประยะหนึ่งนั้นอาจเกิดจาก

  1. คุณภาพและสมบัติของสีที่เป็นพื้นผิวขรุขระ ไม่เรียบ เมื่อมีฝุ่นตกลงมาก็จะไปติดตามร่องระหว่างร่องของเม็ดสีนั้นๆ
  2. นอกจากนี้เมทัลชีททั่วไปนั้น อาจใช้สีที่มีคุณภาพไม่ดี ก็จะส่งผลให้ฝุ่นที่ตกลงมาสะสมเมื่อโดนความชื้น ก็จะฝังตัวลงไปบนเนื้อของสี ของเมทัลชีทนั้นๆ และนี่คือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เมท้ลชีททั่วไป เมื่อใช้ไประยะหนี่ง จะมีคราบดำจากฝุ่นที่ถูกน้ำฝนชะล้าง แลดูไม่สะอาดตา

สำหรับเมทัลชีท Colorbond® Steel นั้นนอกจากมีการรับประกันไม่ผุกร่อนจนทะลุ 30 ปีแล้ว ยังมีการรับประกันฝุ่นไม่เกาะจนเกิดคราบดำเป็นเวลา 5 ปีอีกด้วย การันตีจากโครงการต่างๆที่ใช้ Colorbond® Steel มากว่า 20 ปีเช่น บ้านธารบุตร, Outlet Mall สาขาพัทยา และโรงงาน บลูสโคป ไลสาจท์ ที่รังสิต แม้ว่าจะใช้มากว่า 20 ปี สีสันยังคงสวยงาม ไม่หม่นหมองจากคราบฝุ่น ดูโครงการอื่น https://bit.ly/3RA7on4

บ้านธารบุตร ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel สี Burnt Almond อายุ 20 ปี

Outlet Mall สาขาพัทยา ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel สี Autumn Red อายุ 21 ปี

โรงงานแห่งแรกของบลูสโคป อายุกว่า 35 ปี ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel สี Burnt Almond

โดย เมทัลชีท Colorbond® Steel นั้นที่มี Clean Technology ทำให้พื้นผิวมี 3 คุณสมบัติที่ดีคือ

  1. พื้นผิวที่เรียบเมื่อมีฝุ่นตกลงมาจะไม่เป็นที่สะสมของฝุ่น
  2. ทำให้ฝุ่นที่มีความชื้น ไม่ฝังตัวลงไปในเนื้อสี โดยจะลอยอยู่ด้านบน

  1. พื้นผิวสีมีสมบัติที่ทำให้น้ำกระจายตัวได้ Hydrophilic

พื้นผิว ที่น้ำไม่กระจายตัว (เมทัลชีททั่วไป) ทำให้น้ำไม่สามารถพาฝุ่นและ คราบสกปรก ออกไปจากพื้นผิวได้ ทำให้ตกค้างและ สะสมจนเป็นคราบดำแลดูไม่สวยงาม แต่สำหรับ Colorbond® Steel เมื่อมีฝนตกลงมาด้วยสมบัติพิเศษของสีจะทำให้ น้ำฝนจะกระจายตัวไปทั่วแผ่น และฝุ่นที่อยู่บนพื้นผิวจะถูกชะล้างไปพร้อมกับน้ำฝน ทำให้ไม่เกิดคราบดำ คราบบนพื้นผิว เมื่อเทียบกับเมทัลชีททั่วไป

ซึ่งเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้จากการทดลอง 2 แบบคือ

  1. สภาวะจำลองหรือที่เรียกกันว่า Exposure Rack โดยจะมีการติดตัวอย่างทั้ง เมทัลชีท Colorbond® Steel และเมทัลชีททั่วไป ในที่ๆเดียวกัน โดยจะมีการสังเกตุ เก็บข้อมูล บันทึกผลเป็นระยะเวลาทุกๆ 1 เดือน เพื่อประเมินคุณภาพเมทัลชีท

รูป Exposure Rack ที่บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานระยอง

รูปผลการทดลองเปรียบเทียบเมทัลชีท Colorbond® Steel กับเมทัลชีททั่วไป

จากรูปจะเห็นได้ว่าเมทัลชีท Colorbond® Steel นั้นที่มี Clean Technology เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลากว่า 16 เดือน นั้นอาจจะมีคราบฝุ่นตกลงมา และเมื่อมีฝกตกลงมา น้ำฝนจะซะล้างสิ่งสกปรกออกไปโดยไม่ทิ้งคราบไว้บนแผ่นเมทัลชีท Colorbond® Steel แต่เมทัลชีททั่วไปจะเกิดคราบดำเมื่อมีฝุ่นเกาะสะสมและ โดยน้ำฝนชะล้างลงมา

  1. เนื่องจากการทำ Exposure Rack เป็นการจำลองสภาพการใช้งานจริงที่เกิดขึ้นทำให้การเกิดข้อมูลนั้นใช้ระยะเวลานานเป็นเดือน เป็นปี กว่าจะได้ผลเพื่อนำไปวิเคราะห์ ดังนั้นเพื่อย่นระยะเวลาในการทดลองลงเพื่อให้สามารถประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น ทางบลูสโคปจึงได้สร้างการทดลอง โดยจำลองสภาวะเสมือนจริงและ สามารถเร่งระยะเวลาในการทดลองได้อีกด้วยนั่นคือ การทดลอง Dirt-stain retention

รูปผลการทดลอง Dirt-stain resistance

โรงงาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel อายุ 26 ปี ยังไม่เกิดสนิม

โรงงาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel อายุ 35 ปี ยังไม่เกิดสนิม

เพราะใช้จริง จึงกล้ารับประกัน  เมทัลชีท บลูสโคป เพราะมีการใช้งานจริงที่โครงการต่างๆกว่า 35 ปีสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3L1RLRx นอกจากนี้เรายังมีการทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานต่างๆอีกด้วย

การทดสอบคุณภาพสินค้า บลูสโคป เพิ่มเติมได้ที่