5 เช็กลิสต์น่ารู้ ก่อนตัดสินใจซื้อหลังคาเมทัลชีท รู้ได้ยังไงว่ามีคุณภาพ

เมื่อคิดจะสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน หรือรีโนเวทบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว โรงจอดรถ ฯลฯ คนส่วนใหญ่ก็เริ่มหันไปสนใจใช้หลังคาเหล็กหรือที่เรียกว่าหลังคาเมทัลชีทกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีน้ำหนักเบากว่าหลังคากระเบื้องแล้ว ขนาดแผ่นหลังคาก็ยังกว้าง ติดตั้งได้ง่าย สะดวก รวดเร็วกว่า แถมยังทำให้มีรอยต่อน้อย และไม่ต้องคอยกังวลเรื่องรั่วอีกต่างหาก

ประเด็นอยู่ตรงนี้แหละค่ะ ด้วยความฮิตจึงทำให้ตอนนี้มีแบรนด์มาให้เลือกมากมาย แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าจะเลือกซื้อหลังคาเมทัลชีทแบรนด์ไหนดีที่ทำให้มั่นใจว่าใช้แล้วจะไม่เสียใจทีหลัง ถ้าอย่างนั้นตามไปดูกันดีกว่าค่ะว่า ถ้าต้องการเลือกหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณภาพ เราควรเริ่มจากอะไรบ้าง และดูอย่างไรดี

หลังคาเมทัลชีท

1. รูปแบบลอนเหมาะกับความชัน

รูปแบบลอนของหลังคาเมทัลชีท มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นลอนมาตรฐาน ที่นิยมกัน เช่น ลอนอกไก่ ลอนตะเข็บคู่ และลอนสเปน นอกจากจะตัดสินกันที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ควรเลือกรูปแบบลอนให้เหมาะกับความลาดชันของงานด้วย ไม่อย่างนั้นหากเลือกลอนผิด ก็อาจจะทำให้น้ำรั่วเพราะระบายน้ำไม่ทันได้นะคะ

2. หลังคาหนา แข็งแรง ทนทาน

ยิ่งหลังคามีความหนามากเท่าไร ก็จะยิ่งมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงกว่า ดังนั้นจึงควรพิจารณาระยะห่างของแปควบคู่กันไปด้วย หากระยะแปห่างก็ควรใช้หลังคาที่มีความหนามากขึ้น เพื่อให้หลังคาสามารถรับน้ำหนักได้เยอะขึ้น
โดยค่าความหนาของหลังคาแบ่งเป็น 3 ค่า คือ
– BMT หรือ Base Metal Thickness ค่านี้ความหนาของแผ่นเหล็กก่อนเคลือบโลหะ
– TCT หรือ Total Coated Thickness ที่ใช้บอกความหนาของแผ่นเหล็กเคลือบโลหะ
– APT หรือ After Painted Thickness สำหรับบอกความหนาของแผ่นเหล็กรวมเคลือบโลหะและเคลือบสี

3. เคลือบด้วยอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี ป้องกันสนิม

เหตุผลที่ควรเลือกหลังคาที่เคลือบสารอะลูมิเนียมและสังกะสี ที่ช่วยป้องกันทั้งสนิม รอยขีดข่วน และการกัดกร่อน ซึ่งสามารถดูได้จากค่า AZ (A = Aluminium, Z= Zinc) เช่น AZ90 และ AZ150 เป็นต้น หากมีค่า AZ สูงก็แสดงว่ามีมวลสารเคลือบมาก และทำให้อายุการใช้งานของหลังคานานยิ่งขึ้น

4. ผลิตจากเหล็กมีคุณภาพ

โดยทั่วไปเกรดของเหล็กมี 2 แบบด้วยกันคือ เหล็กเกรดนิ่มและเหล็กเกรดแข็ง เหล็กเกรดนิ่มมีความยืดหยุ่นมากกว่าเพื่อป้องกันการแตกหัก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการขึ้นรูปลอนที่มีความโค้งมากกว่าปกติ ส่วนเหล็กเกรดแข็งนั้น จะมีความแข็งแรงสูงเหมาะสำหรับงานรูปลอนทั่วไป

5. แบรนด์น่าเชื่อถือ

การเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะดูกันที่ประวัติของบริษัทและผลตอบรับจากผู้ที่เคยใช้บริการมาแล้ว วัสดุที่นำมาใช้ควรได้รับการรับรองโดยองค์กรหรือสถาบันที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น การได้รับมาตรฐานจาก มอก. ที่จะช่วยทำให้มั่นใจได้มากขึ้นว่าวัสดุมีคุณภาพ หรือมีการรับประกันที่สร้างความเชื่อมั่นแก่เราได้มากขึ้น

เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาหลังคาเมทัลชีทที่ดีมีคุณภาพ หลังคา BlueScope ZACS (บลูสโคป แซคส์) ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะนอกจากจะออกแบบด้วยเหล็กคุณภาพดี มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง และทนทาน สามารถปรับใช้กับหลังคาได้ทุกรูปทรงแล้ว ยังมีมวลสารเคลือบที่ใช้สูงสุดถึง AZ150 ป้องกันการเกิดสนิมได้ดีกว่าแผ่นสังกะสีทั่วไปถึง 4 เท่า

นอกจากนี้หลังคา BlueScope ZACS ยังเป็นแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน มอก. ถึง 2 ใบทั้ง มอก. 2228-2559 สำหรับแผ่นเมทัลชีทเคลือบโลหะ และ มอก. 2753-2559 สำหรับแผ่นเมทัลชีทเคลือบสี พร้อมทั้งรับประกันนานถึง 15 ปี

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://home.kapook.com/view205741.html